วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กงสี่

ประทานโดย : หนึ่งในแปดเซียนหลี่เถี่ยไกว่ และพระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : กงสี่

สุดยินดีที่มีวัน ร่วมสร้างสรรค์งานธรรมา หนักก็เอาเบาสู้ทน ผลงานฟันฝ่าภูมิใจ ใจมั่นคงมุ่งตรงทิศทาง แม้ภัยขวางกลาง ไม่ยอมเลิกลา (กงสี่)

สุดกำลังสุดแรงใจ รักษาไว้นิรันดร งานของธรรมเรืองรุ่งไกล ด้วยใจดวงหนึ่งเดียวกัน เดินก้าวตามขั้นตอนหลังหน้า ขอพรฟ้าจงช่วยดลสำเร็จ (กงสี่)

ตราบชีวียังคงครอง ต้องรู้ไว้คุณค่าตน ถูกขานนามเป็นเลิศคน ไม่พ้นธรรมหลักคำนึง ควรสำรวมทั้งกายและใจ ให้งานสมบูรณ์สมคำร่ำลือ (กงสี่)

ก่อนกระทำการใดใด ต้องรู้คิดประมาณตน เคารพคนเกรงใจคน ผลกรรมดีตอบแทนคุณ มีมิตรดีร่วมเสวนา เพราะแรงของการชื่นชมผู้อื่น (กงสี่)

จิตที่คอยอิจฉาคน ชอบค้นหาความไม่ดี สะสมไว้เป็นแรมปี เลิกเสียทีสุขใจจริง คำวจีที่ดีแนะนำ ให้ใครรับฟังชื่นใจถึงเอย (กงสี่)

การยั้งใจ

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : เสน่หา

การยั้งใจศิษย์คนดีทำหรือยัง ยังเพลินจิต บันเทิงใจ ปรารถนา ทุกข์นี้มาจากใจมิสร่าง เคว้งคว้างในโลกกว้างให้หา ขอใคร่ครวญให้ดีนา ว่าเกิดมาเพื่อหลงทำไม

* หรือถึงใจร้อนยิ่ง ใจจงนิ่งจึงชนะและเดินไหว ทุกข์เกิดแท้แล้วลาไป แค่ไม่คว้าหามาเพิ่มย่อมเบาบาง

(ซ้ำ * )

กำเนิดสับสน

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ไม่นึกเลย

ฟ้าหมองมัวใจข้าซบดิน ลืมสิ้นกาลก่อนเคยร่วมกัน ยามนี้มาพลันเลื่อนลอยไกล ฝากหมู่ดาวช่วยนำชี้เส้นทาง

ทุกข์ไม่วางกังขาพาหม่น ใจข้าทนเดียวดายเฝ้ารอ ร้องขอวอนลมฝนนำศิษย์ ฝ่าจิตวนที่มีทุกครั้งไป

* เวิ้งว้างเปล่าใจ ใครรู้ข้าเหนื่อย เรไรก้องกู่มาตามสายลม ทุกข์ซ้ำหกหมื่นปี เจ้ามิสู่ต้น กำเนิดสับสนว่ายเวียนหนี้กรรม

โลกทุกข์ทนไยเจ้ายังสุข ข้าจี้กงหนักใจเหลือเกิน ผองอารมณ์ไยเจ้าไม่ปล่อย ให้ลอยลับยากคืนทิพย์บ้านเดิม

(ซ้ำ * )

กลับฝั่งธรรม

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : เรือใบไม้

ชีวิตหนึ่งชีพนี้ ค่าควรรู้จักตน แบ่งปันเพื่อปวงชน มิหลงทางจงเมตตา สร้างกรรมใดผิดด้วยตน ให้ผลชาตินี้ทุกข์ใจ เปื้อนมลทินแปด หวั่นไหวเรื่องรอบกาย ศิษย์จะลุหลักธรรมอย่างไร

* ด้วยกิเลสลามลุก เหมือนไฟโหมกระหน่ำ ยิ่งถลำรุนแรงทวี มีเพียงแค่สำนึก ด้วยบึ้งลึกญาณใจ ช่วยนำร้ายกลับสู่ดี

(ซ้ำ * )

ช่วยนำศิษย์รักกลับฝั่งธรรม

กระแสชีวิต

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ฝากรักเอาไว้ในเพลง

หักนิ้วลงนับเวลาแห่งตน ครั้งยังเยาว์จวบจนบัดนี้ เล่นแหวกว่ายในความเสรี ไม่เคยมีเรื่องทุกข์ใจ จวบโตยิ่งทุกข์ ยิ่งกลุ้มหนักใจ ถึงเข้าใจแต่มิคลายโศกศัลย์ เรื่องหนึ่งแก้ปม ไปหลายวัน ดีร้ายพล่านปะปน

* บางทีดังนึกได้ เมื่อกาลผ่านไป ไม่อาจเท่าเราทัน ผู้ใดถึงไม่ดีนั้น ฉันมอบดีปัน ฉันไม่เอ่ยว่าใคร ศิษย์น้อยเพลงนี้เตือนใจมอบลง ถึงจะแพ้ก็อย่าหลงสู้ยิบตา สู่วันหน้าเหมือนทิวา จะกี่ปี ไม่เปลี่ยนแปร (*)

เก็บงานใจสมบูรณ์

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : เก็บตะวัน

เก็บดวงญาณทุกดวงคืนฟ้า เกิดตายมาไม่รู้ทางไป ร่วมพลังให้ธรรมส่องแสงยิ่งใหญ่ รวมญาณไว้ให้เป็นหนึ่งเดียว อย่าปล่อยกาลเวลาผ่านเลย ศิษย์รักเอย แกะหลงช่วยกัน หนึ่งตัวตนหนึ่งคนชีวิต... แสนสั้น เพียงจิตนั้นยั่งยืนไม่ตาย

* ทุกชีวาต่างผ่านฟ้าครึ้มเมฆหม่น พายุฝนขอบคุณฟากฟ้า สอบไม่นานตะวันสาดแสงทั่วหล้า เกิดใจฟ้างดงาม

หากขาดธรรมจรรโลงคู่ฟ้า ขาดเมตตาโลกร้อนเป็นไฟ อย่ามัวรอพรุ่งนี้ค่อยเดินเริ่มใหม่ แบกภาระดั่งเดือนตะวัน (ซ้ำ * )

กำแพงชีวิต

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ทุยใจดำ

* ล่องวนเขตไตรมิย้อนกลับฟ้า แม่คอยรอหาพุทธบุตรทุกวัน ขอเพียงแต่ใจผูกใยสัมพันธ์ ใจพุทธะนั้นล้วนเกิดจากตน เดิมบังเกิดมามิจฉาบ่มุ่ง ใจคอยซิยุ่งเหมือนยุงตีกัน แท้จริงจำรัสแจ่มใสจีรัง มิถูกกระทบอยากพบขั้นไหน

** อาวุโส ผู้บำเพ็ญด้วยจิตบารมี กี่ร้อยพันปีดวงหทัยที่มุ่งเพื่อธรรม ตัวแทนแห่งธรรมสูเจ้าทั้งหลาย ยามบ่ายอย่าครำหาจินตนา

*** น้ำตาที่ไหลดุจสายฝนพรั่ง คลื่นกระทบฝั่งด้วยแรงแห่งลม

( ซ้ำ * / ** / *** / *** )

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ก้าวแรกของจิตใจ

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง และเซียนน้อยผิงซัน
ทำนองเพลง : สยามานุสติ


ผิดนั้นยากฉุดยั้ง ยืนยง
จุดญาณทวารคง สง่าสิ้น
มิอาจผิดการดำรง พิศเศรษฐ์ เรืองรอง
ดูได้เหมือนพี่น้อง ผู้เวียนอยู่แดนโลกา

ใครทำใครรับก้าว เร็วไว
ใครมิรับใส่ใจ สูญสิ้น
หมดทุกสิ่งว่างเปล่าไป เทียมใจ นิรันดร์
สิ่งต่างนั้นมีสิ้นสุด หยุดที่ลมหายใจ

ก้าวฝ่ามุ่งไป

ประทานโดย : นาจาราชบุตรสาม (เทพบุตรโกมินทร์)
ทำนองเพลง : ใจประสานใจ

วันแลคืนผันไปโปรดจงใช้นาทีเกิดผล ยุคท้ายวาระดลเรือธรรมเบื้องบนนำพาเวไนย ทางบำเพ็ญลุ่มดอนอาจโยกคลอน ภยันพบพา อย่าหยุดช้าก้าวฝ่ามุ่งไป

ตราบใดยังมืดมนยากหลุดพ้นมลทินเกาะหนา แม้ล้นทรัพย์เงินตราตายจาก กายานำไปผลกรรม จงทำดีขึ้นไปช่วยเวไนยพายเรือแสงธรรม ดั่งหลักค้ำธรรมใหญ่มั่นคง

* พร้อมเราพร้อมบำเพ็ญ เหนื่อยเข็ญมิคิดท้อใจ พระคุณฟ้ามากมายตอบแทน วิสุทธิอาจารย์ เบิกญาณชี้ทางเห็นแก่น พร้อมคืนแดนนิพพานเดิม

ชีวามนุษย์เราดั่งแมลงชั่วคราวไม่นาน มัวมารบรากันโลกนั้นสุขไหม องค์มารดาเบื้องบน รอบุตรตน ณ แดนแสนไกล หากมีผู้ใดล้มไป ช่วยฉุดให้เขาเดินไปด้วยกัน

(ซ้ำ * )

ก้าวคืนหนทางนิพพาน

ประทานโดย : หนึ่งในแปดเซียนหันเซียงจื่อ
ทำนองเพลง : บทเรียนสอนใจ

กาลเมื่อวนเวียนยุคขาว ผันมาปลุกญาณคืนแดน แสงธรรมได้ส่องถึงคราวเรือแล่น จากหมื่นเส้นทางได้รวมรับธรรม นับหลายเวียนว่ายจนเปลี่ยนผัน ถึงคราวต้องจับสายทองคืน คราใดหมองหม่นอดทนจึงตื่น ให้คงยั่งยืนเหมือนดังเบื้องบน

*บำเพ็ญต้องเดินบนทางที่กว้าง ยุคสร้างบุญให้ใจดั่งฟ้าคราม ทุกข์ยากกล้ำหมดสิ้นซึ่งวัฏฏะกาล เดินเท่านั้นสุขทุกครา ฟ้าป้องปกดวงญาณไว้ หวังใจให้คลายจากเพลิง เข้าใจจงมุ่งพุทธาล้ำเลิศ ก้าวคืนหนทางนิพพานตื่นฝัน (*)

การบรรจบร่วมปรกงาน

ประทานโดย : สงฆ์จี้กงวิปลาส
ทำนองเพลง : คำว่าจบพูดเบาเบาก็เจ็บ

ยามตะวันลับขอบฟ้า สกุณาผกผินบินกลับหวน ความหนาวเย็นเข้าครอบงำ จี้กงช้ำร้องคร่ำครวญ เรียกหา ศิษย์มิหวน ใจอาดูร

ลงสู่โลกาห่างแสนไกล จิตเดิมที่ใส หลงในห้วงตัณหา บนโลกาพาหวั่นไหว ทุกข์จากใจอันร้อนรน น้ำวนซ่อนทุกข์ปมของชีวัน

เนิ่นนานห่างกันไกล เจ็บลึกเพียงไหน ทำไมไม่ตื่นฝัน

* กาลบรรจบ ร่วมในกาลยุคโปรด จงล้างโลภโกรธ รักหลงที่คลุมใจ กาลบรรจบ ร่วมปรกงานยุคโปรด ศิษย์รักร่วมโปรดผองชน นำทางเวไนย เยื่อใยอาจารย์ กัปกาลสุดท้าย หวังศิษย์ตื่นพ้นยุคปลาย หนักเบาก้าวร่วมเผชิญ

** เมื่อศิษย์เข้มแข็งไม่พอ อาจารย์จะรอ รอเจ้าอยู่ตรงนี้ หนันผิงจงกลับหัน อาจารย์นั้นรอคนดี จงมุ่งมั่นทุกนาที บรรลุคืน (ซ้ำ * / ** )

ใจที่มีมุ่งความดี ลุธรรมยุคปลาย

หมายเหตุ
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 2 วัน ณ ไท่อู้ฝอเอวี้ยน จ.นครราชสีมา
วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2552

กลับตน

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ทะเลไม่เคยหลับ

คอยแล้วคอยทุกคืน เห็นญาณไม่ตื่นสักหน ความทุกข์ตรองมืดหม่น ศิษย์ไม่สนคำอาจารย์ ทิวาร่องเรือส่องแสง ญาณจิตที่แฝง ไฉนเลยผ่าน มองย้อนตรงจิตบ้าง นิพพานมีด่านอยู่ที่ใด

* คนึงถึงกาลหวนกัน ผิงซันและกับข้าไซร้ รอทุกคนคืนให้ จิตใจเหมือนเดิมนิรันดร์กาล กลางหุบเขาที่เดิม เมื่อส่องเริ่มเห็นจุดหมายโอฬาร ชีวิตใครยาวนาน แล้วใครจะกลับหวนสู่นิพพาน

( ซ้ำ * )

เกิดแล้วตาย

ประทานโดย : (ไม่ใช่เพลงพระโอวาท)
ทำนองเพลง : หงส์ปีกหัก

เกิดแล้วตาย.. แล้วตาย เจ็บอยู่ไม่เว้นวาย เกิดตายทะเลทุกข์ โลกนี้แสนทุกข์ตรม ทุกคนต้องอวสาน เมื่อสิ้นลมปราณแล้วญาณออกร่างจะไปไหน

เกิดมาแสนนาน.. เหลือทน เฝ้าแต่เวียนวกวนหลงตนวัฏสงสาร เกิดก็ทรมาน ตายก็ทรมาน โลกวิญญาณก็ทรมานเช่นกัน

อย่าหลงตน หลงระเริง เที่ยวเพลิดเพลินระเริงอบายมุข สุขใดๆ ไม่มี โลกนี้เป็นสิ่งสมมุติ พวกเราชาวพุทธ หาทางเร่งหลุดสิ้นสุดเกิดตาย

# ฟังธรรม ศึกษาธรรม สัจธรรมน้อมนำ คลายจิตใจเศร้าหมอง จิตที่เป็นพิษใน ใครจะใส่ยาตรอง พ่อแม่พี่น้อง หาทางเร่งหลุดสิ้นสุดเกิดตาย

(ซ้ำ #)

กลับคืน

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ทะเลไม่เคยหลับ

คอยแล้วคอยทุกคืน เห็นญาณไม่ตื่นสักหน ความทุกข์ตรองมืดหม่น ศิษย์ไม่สนคำอาจารย์ ทิวาร่องเรือส่องแสง ญาณจิตที่แฝง ไฉนเลยผ่าน มองย้อนตรงจิตบ้าง นิพพานมีด่านอยู่ที่ใด

* คนึงถึงกาลหวนกัน ผิงซันและกับข้าไซร้ รอทุกคนคืนให้ จิตใจเหมือนเดิมนิรันดร์กาล กลางหุบเขาที่เดิม เมื่อส่องเริ่มเห็นจุดหมายโอฬาร ชีวิตใครยาวนาน แล้วใครจะกลับหวนสู่นิพพาน

( ซ้ำ * )

เกลียวทุกข์

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : รักที่ยากลืม

ตะวันลับฟ้า เกลียวทุกข์มิสร่างห่างหายให้ผ่อนคลาย นับวันร้อนแรงทวี ปวดร้าวเจ้าลุ่มหลงนานเกินไป คลื่นซัดกับผืนทราย แตกละลายรินน้ำตา ยอมแบกกรรมท่วมเต็มบ่า ทุกข์ค้างคาใครเข้าใจ

# ศิษย์เอยข้าคิด ยามนี้ขออธิษฐานวอนข้าเพียง ระฆังเสียงดังกังวาน ศิษย์เอ๋ยเจ้าตื่นหนาอาจารย์คอย

* ผืนดินดังใจอาจารย์ ต้นสนพลันงามงอกเงย คุณค่าธรรมยากเอื้อนเอ่ย เจ้าละเลยใจข้าตรม

(ซ้ำ# / *)

คุณค่าธรรมยากเอื้อนเอ่ย เจ้าละเลยใจข้าตรม

เก็บตะวัน

ประทานโดย : ท่านนาจาราชบุตร
ทำนองเพลง : เก็บตะวัน

หากเวลาล่วงเลยผ่านไป จะมีคนเหนี่ยวรั้งทางใด อีกวันคืนเปี่ยมความสับสนวุ่นวาย อับจนไร้คำใดปลอบโยน หนึ่งชีวีเวทีแสดง หลับตาพลันดังฝันชั่วคืน ตื่นลืมตาจะคง สิ่งใดยั่งยืน ปลุกตนฟื้นบำเพ็ญจิตเดิม

# ในธรามีใครล่วงพ้นห้วงโศก คงยึดหลงอยู่ในความฝัน สกุณากลับรังเราหวนคืนบ้าน จากมานั้นนิพพาน เปิดปัญญาญาณตนเติบโต สอบทางธรรมหยั่งเห็นบั้นปลาย ผ่านวันคืนเหน็บหนาวสอบกรำยิ่งใหญ่ ส่องไสวนลินเบ่งบาน

(ซ้ำ #)

หมายเหตุ
ธรา : แผ่นดิน
นลิน : ดอกบัว

เก็บซ่อนผลงาม

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ล่องแม่ปิง

กอปรความดีเหมือนดั่งฟักในหญ้าพง เก็บซ่อนผลงามเติบโตเบ่งบานดำรงช้านาน เช่นศิษย์วันนี้น้อมยินดีสัจจา ตื่นในจิตฟ้าว่าความหลงพา เศร้าดั่งเงาตามติดครวญตนใหม่ แม้ว่าความดีงามที่ทำกลับมีผู้รู้น้อยนา

ธรรมยังคงมั่น ความเชื่อความศรัทธา เกี่ยวช้าแต่ผลความดียั่งยืนไม่บ่นโทษใคร ทุ่มเทส่งเสริมผลนั้นอย่างไร มุ่งไปความดีเห็นธรรมเสริมธรรม รู้นำหนทางตรงผองชนรับธรรมบำเพ็ญเปรียบเช่นผลความดี ทกคนนั้นพลีสมหวัง

หมายเหตุ
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 2 วัน ณ พุทธสถานผู่ฉือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พุทธศักราช 2546

เก็บงานใจ

ประทานโดย : หนันจี๋เหล่าเซียนอง
ทำนองเพลง : เมกกาแดนซ์

เสียงระฆังดังก้องกังวาล ดุจจะเตือนผู้หลงทางในโลก เวลาที่ควรจะเก็บงาน อีกนำภาฉุดช่วยตน สู่วิถีแห่งการบำเพ็ญ ต้องชัดเจนในภาระแห่งตน แล้วจงทำด้วยความตั้งใจ สำเร็จจะเป็นผล

* หากเลื่อนลอยแล้วยังไร้ซึ่งจุดหมาย ซ้ำยังมิได้ขัดเกลาความผิดแห่งตน ไหนเลยไหนเลย ไหนจะให้ผู้คนนั้นเรียนแบบอย่างแห่งตน ฝึกอย่างเมธีท่านนั้นเริ่มจากตนนี้ เพื่อเข้าสู่วิถีวิสุทธิ์แห่งธรรม อีกนำพาเวไนยนั้นพบสุขศรี ทำเช่นนี้ได้นะเจ้าเอ๋ย จะเฉลยให้เห็นซึ่งคำตอบ ว่าปราชย์เมธีในโบราณ สำเร็จได้อย่างไร

กู้โลกแปรบัวบาน

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : แปดโมงเช้าวันอังคาร

# ดั่งความฝันอันวันวาน ถึงจวบกาลที่โปรดธรรม ครานั้นผิงซันร่ำลา กู้โลกแปรบัวบาน ถ้อยคำนั้นยังจดจำ ถึงกาลปลายยุคสุดท้าย มาพบคนเดินที่ไกล บอกความนัยว่าคอย

ร้อยหมื่นลี้ที่เดินตาม เป็นเพราะศิษย์เดียงสา ฤดูแต่ฤดู เก็บเกี่ยวผลของการปลูก เหมือนชีวิตศิษย์หล่อเลี้ยง อยู่มิสิ้นจากธรรม ลึกซึ้งถึงกาลหวลคืน ศิษย์หยัดยืนรับความจริง

* ทะเลทุกข์เปลี่ยนผกผัน ชีวิตผ่านเกิดตาย เหมือนน้ำที่หลั่งไหล มุ่งมั่นพิชิตเหนือกรรม เพราะชีวิตที่ถลำ เป็นผลบาปกรรมนั้น ย้อนคิดถึงวันเวลา เข้าใจกาลปรกโปรดธรรม

@ ผ่านหลากหลายในชีวา รู้กลับใจโอกาสมี ปลูกฝังเริ่มจากเมตตา รัตติกาลเปลี่ยนไป จากชีพนี้ยังยาวไกล แสงประกายธรรมเบิกทาง จิตนี้บำเพ็ญส่องไป กว้างไกลบนโลกธรรม

..Solo..

(ซ้ำ *, @, #)

หมายเหตุ
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 2 วัน ณ ฉงกวงฝอเอวี้ยน จ.นครราชสีมา ,
ณ ฉงเต๋อฝอเอวี้ยน จ.นครปฐม , ณ พุทธสถานไท่หยง จ.เชียงราย ,
ณ พุทธสถานไท่ผู่ จ.จันทบุรี, ณ พุทธสถานไท่ฮว่า จ.ราชบุรี ,
ณ พุทธสถานไท่อู้ จ.นครราชสีมา และ ณ พุทธสถานไท่เซิ่ง จ.สมุทรปราการ
วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พุทธศักราช 2545
พระโอวาทซ้อนพระโอวาท คำว่า
คุณธรรมชีวิตหล่อเลี้ยงธรรมจิต มุ่งมั่นพิชิตเหนือลิขิตกรรม

กุศลใหญ่รอท่านเบื้องบน

ประทานโดย : พระโพธิสัตว์กวนอิม
ทำนองเพลง : พั่น

มาจากแดนที่แสนไกล
พบผู้คนศรัทธามากมาย
สถานที่นี้พุทธธรรม
ตั้งใจจริงมุ่งมั่นเรื่อยไป
อุปสรรคนั้นมากมาย
มุ่งศรัทธาแลความจริงใจ
ลงสู่แดนที่สับสน
เราจึงได้ลงมาเยี่ยมเยียน
มโนธรรมน้อมใจกาย
คงสดใสกุศลน้อมนำ
กลางใจกายทดสอบครัน
กุศลใหญ่รอท่านเบื้องบน

กินเจเว้นกรรม

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ซู่ อู่ มู่ เอี๋ยง

ถือบวชควรละเว้นกรรมปาก เดรัจฉานทั้งปวง คราถูกจับทั้งเป็น บ้างกลัวลานบ้างร้องวอน บ้างลับลี้หนีไกล ภาพมีดเชือดเฉือนคอ มองไปใจเศร้าแสน ตาโพลงแม้ท้องแหวะ ขายันเมื่อ หัวขาด เช่นเราเคราะห์ร้าย ใจหายกลัว ไม่ต่างกันไหนเลย

* ผ่าท้องปลาว่ายไป ปูเต้นในหม้อไฟ ผู้ใจบุญห่างครัวไฟ เมิ่งจื้อไว้คำเตือน ไม่กินยินสำเนียง พุทธว่าเมตตาธรรม เดรัจฉานทั้งปวง ล้วนญาณเกิดจากเหลาหมู่ ศิษย์ทั้งหลายเอ๋ย ดีทั้งหญิงชายเร่งกินเจเว้นกรรม

(ซ้ำ *)

ก้าวสู่จุดหมาย

ประทานโดย : หันต้าเซียน และหลันต้าเซียน
ทำนองเพลง : ถึงเพื่อน

ชีวิตหนึ่งเพียงฝัน มินานเริ่มดํารง ย่อมวนประสบสุขทุกข์เรื่อยไป ยังคงติดหลงมิยอมแปรใจ ดังฟ้างามแสนไกลปกคลุมด้วยควันหมอก

พบทางสุขแท้ หลุดพ้นเวียนเกิด แสงธรรมบรรเจิดได้ส่องทั้งหล้า หมู่มวลแกะหลง ได้ธรรมนําพา หลับหลงที่ผ่านมา ตื่นเห็นหลักธรรม

มุ่งตรงจุดหมาย ย่อมเห็นทางได้ หวังเพียงตั้งใจ ก้าวต่อมิถอยห่าง

# แต่หากกลับถอย มิถึงปลายทาง แม้ไกลแสนไกล ก้าวเดินถึงสักวัน

(ซํ้า #)

ก้าวเดินพุทธา

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ครึ่งหนึ่งของชีวิต

แบกภาระนำเวไนย ภูผาชันไม่หวั่นกลัว รู้แจ้งจิตชีวิตนี้สุขศานต์ ทะเลทุกข์ที่โถมซ้ำ ถามซึ่งใจตนก่อนพลัน เท่าทันในกิเลสคลายครอบงำ

หนึ่งชีวิตบำเพ็ญธรรม อาศัยกายดำเนินจริง มินิ่งหยุดปรกเวไนยยุคตรี เรียกสุดเสียงช่วยพุทธะ บุญสัมพันธ์ไกลหมื่นลี้ เส้นทางใหม่ชีวิตการบำเพ็ญ

* ก้าวหนึ่งของชีวิต เลือกเดินทางพุทธา หกหมื่นปีหลงมานาน ญาณเดิม เวียนว่ายบัดนี้ เสริมส่งสร้างชีวิต ยอดเมธียุคปลาย ถนอมเวลาค่าในชีวิต บำเพ็ญเพียรสร้างกุศล

สร้างชีวิตอริยา บนเส้นทางคุณความดี อุปสรรคมีศิษย์รัก สู้ไป ตื่นจากนี้ไม่หลงใหล ใจมุ่งตรงยืนหยัดไว้ ฟ้าเฝ้าดูจิตใจศิษย์รักทุกคน

(ซ้ำ * )

ตื่นจากนี้ไม่หลงใหล ใจมุ่งตรงยืนหยัดไว้ ฟ้าเฝ้าดูจิตใจศิษย์รักทุกคน

หมายเหตุ
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 2 วัน ณ ฉงเต๋อฝอเอวี้ยน จ.นครปฐม
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พุทธศักราช 2549

ก้าวเดินทางฟ้า

ประทานโดย : สงฆ์จี้กงวิปลาส
ทำนองเพลง : สายัณห์รัญจวน ( อุเทน พรหมมินทร์ )

ความห่วงใยมิจาง กลางผิงซันเรียกหา วอนสายลมนำพาศิษยาข้าคืน เมตตา เมตตา เมตตาพุทธาลุ่มหลง จิตธรรมต่ำลง หลงกลางทะเลเวียนว่าย เนิ่นนาน ผันผ่านจิตญาณหมองมัวกลั้วไซร้ ศิษย์เอ๋ยมุ่งหมาย ฟื้นฟูฤทัยให้งาม

* มีดวงตาเห็นธรรม นำฤทัยไม่หลง เพียรสายกลางทางตรงมั่นคงศรัทธา ศิษย์เอ๋ย ศิษย์เอ๋ย ศิษย์เอ๋ยย้ำคำมุ่งนา ก้าวเดินทางฟ้า แม้นมีน้ำตาเพื่อชน

(ซ้ำ *)

ก้าวเดินทางฟ้า แม้นมีน้ำตาเพื่อชน

หมายเหตุ
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 2 วัน ณ สถานธรรมไท่จง บางแค จ. กรุงเทพ
วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2550

การให้อภัย

ประทานโดย : พระโพธิสัตว์กวนอิม
ทำนองเพลง : กุหลาบเวียงพิงค์

การให้อภัยเปรียบดอกไม้ที่ให้แก่กัน จุดเริ่มต้นด้วยการแบ่งปัน ความสุขสันต์จะมีทั่วไป ให้ความเมตตา ความกรุณาเป็นคุณยิ่งใหญ่ ให้ความรัก ความจริงจากใจ นั้นเป็นการให้ที่ดี

จะให้สิ่งใด อย่ารอไว้จงให้ทันที ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมี การให้นี้เป็นเครื่องผูกใจ จะเป็นแต่เพียง ผู้รับนั้นไม่ควรพึงใจ ขจัดความเห็นแก่ตัวสิ้นไป โลกเราจะได้ร่มเย็น….

(ซ้ำ ทั้งหมด)

กายาเป็นเช่นขอนไม้

ประทานโดย : สงฆ์จี้กงวิปลาส
ทำนองเพลง : ขอนไม้กับเรือ

ชีวิตลอยคอกลางท้องเล แรมรอนร่อนเร่ไร้จุดหมาย ทุกก้าวที่ไปไม่มีทิศทาง ท่ามกลางโลกีย์ที่มอมเมา กลางคืนเหน็บหนาวจนใจจะพัง ชีวิตที่หวังคือใดกัน

ตรึกตรองชีวิตที่มีมา ดิ้นรนไขว่คว้ายึดมั่นเอาไว้ สมมุติด้วยใจสุดท้ายเลื่อนลอย รู้ตื่นจิตตนมุ่งคืนฝั่ง จุดหมายที่หวังยังรอคอย แรงแม้มากน้อยทุ่มเทสุดใจ

* เมื่อเรือธรรมลำใหญ่แล่นมา ก็ขอให้ศิษย์อย่าช้า ขึ้นเรือนั้นไป

** เปรียบกายนี้เป็นเช่นขอนไม้ ต่อให้รักดูแลแค่ไหน ผุพังไป พึ่งพาก็ได้ไม่นาน เปรียบกายนี้เป็นเช่นขอนไม้ อยู่อาศัยได้เพียงข้ามวัน แต่จิตนั้น มิผันแม้วันผ่านล่วงไป

รู้จริงเท็จแท้ด้วยธรรมา บำเพ็ญศึกษามุ่งทวนกระแส อย่าได้อ่อนแอพายุคลื่นลม ปรับเปลี่ยนตนจริงในชีวัน สองมือสร้างสรรค์ก่อนชีพสลาย วาระสุดท้ายได้คืนฝั่งธรรม

(ซ้ำ * , ** , ** )

หมายเหตุ
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 2 วัน ช่วงแรก ไท่หยาน จ. ยโสธรช่วงที่สอง ไท่เต๋อ จ.อุบลราชธานี
วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ก่อร่างสร้างฐานธรรม

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : เทพธิดาดอย

* ลมเย็นพัดแผ่วเบาเบามา เวิ้งฟ้าอาณาแสนกว้างใหญ่ กลางดินฟ้าห่างแต่มิไกล มองดูรอบกายแล้วมองตน จากเด็กวัยนั้นจิตงดงาม แล้วล้ำเลยไปทิ้งใจเก่า มาฟื้นดวงใจเยียวยาจิตเฉา เมื่อจิตเพลาเจ้าจะย้อนพบตนเอง

# ยามหามแบกความทุกข์ร้อนมากมาย โทษฟ้าดินโกรธเคืองไม่คุ้มครอง โลกร้อนเปลวเพลิงสะกด จงแบกรับแล้วช่วยโปรด เมื่อทุกข์วางปล่อยห่างพะวง กลับมีความโล่งจิต กำเนิดอริยะที่ไหนกันนะ ล้วนจากน้ำครำในแดนโศก ขอศิษย์รักล้วนปลงตก มิหลงเพลินไป

(ซ้ำ * / # / *)

ก่อนคืนราตรีมืดลง

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : น้ำค้างเดือนหก

อาทิตย์ลอยต่ำค่ำแล้ว นกกาเสียงแจ้วก้องบนฟ้าเพลาเย็น เกาะกลุ่มเพื่อนพ้องมุ่งมองทิศบ้านแลเห็น มิเพลินทิวทัศน์สวยเด่น บินสู่รังพัก อยากถามมวลศิษย์คิดหรือ ว่าตัวแท้คือผู้ใดหนาใคร่รู้จัก เกิดแก่เจ็บตาย วกเวียนเมื่อไหร่หยุดพัก รับธรรมาเรียนรู้หลักฝึกหักห้ามใจไม่เพลิน โอ้วันเดือนรวดเร็วเหลือ เลยล่วงไม่เคยคิดเผื่อ ไม่เคยปราณีใครช่วงชีวิตสั้นยาวเพียงใหน ภายหน้าจะเป็นอย่างไร มีใครรู้ทัน ธรรมะทางเอกเบิกแล้ว ระฆังเสียงแว่วจากฟากฟ้าสุขาวดี โปรดศิษย์ยุคสามคล้ายยามย่ำเย็นเต็มที่ คัดเลือกขึ้นดารณีก่อนคืนราตรีมืดลง

(ซ้ำทั้งหมด)

กลางประตูสวรรค์

ประทานโดย : พระโพธิสัตว์กวนอิม
ทำนองเพลง : ดอกไม้ให้คุณ

ยะเยือกสะท้านเวิ้งว้าง ท้องทะเลสุดตา วนเวียนเรือน้อย หยุดเคว้งขาดลอย แสนเหนื่อยอ่อนล้า ได้ร่างกาย เกิดภูวนแดน ติดตัณหานานา กายาเงินทองมากมาย บุปผามีวันร่วงปราย จะเปรียบไปคล้ายภาพลวง กลางประตูสวรรค์ ลึกล้ำธรรมแยบยล

* ดวงปัญญาที่ท่ามกลาง ภูผาญาณที่มั่นคง กิ่งไผ่โค้งในแจกัน

# หันหน้าหักเหเรือน้อย นี้ให้ล่องคืนฝั่งธรรม ดลประสบผล ให้แสงทิพย์นำให้ความชื่นฉ่ำวัฏฏะวนเกิดตายสิ้นสุดหยุดสับสนเวียนวน

พายเรือธรรมาช่วยคนชีวีคนเราชั่วคราวคงแต่กุศลยั่งยืน

(ซ้ำ * , # )

กลัวศิษย์หลงทาง

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : กระทงหลงทาง

ศิษย์เดินหันหลัง หนี้กรรมอาจารย์แบกไป หลงคิดหลงโลกฝันใฝ่ ศิษย์ใจหันเดินแยกทาง แบกกรรมเจ้าไว้ เท่าใดหาใครช่วยสาง เก็บงานสามโลกเหมือนทาง คอยคว้างหาคนร่วมเดิน

ลูกศิษย์วันนี้มุ่งมั่นจริงใจแค่ไหน มากทุกข์เคี่ยวกรำฝืนใจ กลัวไปหนทางมืดมน กลัวเจ้าจะท้อ สร้างกรรมเผาใจในตน ยามใดหลงทางว่ายวน เหมือนดังอาจารย์ร้าวราน

คำสอนอาจารย์ดังลม ผ่านเรื่อยไปไร้คน เข้าใจทบทวนกระทำ พร่ำกล่าวสัญญา เพียงผ่านแล้วลืมสิ้นหนา ให้เหลือแต่เพียงน้ำตา เฝ้าหาผิงซันศิษย์ทิ้ง

# อาจารย์ศิษย์เหมือน พ่อลูกผูกพันนานมา งานฟ้าเจ้าเคยสัญญา นำพาพุทธาหวนคืน จดจำมั่นไว้ ให้ใจจิตสำนึกคุณ ดั่งคลายทุกข์เร่งสร้างบุญ หนุนนำให้กายจิตพ้น

(ซ้ำ #)

กลัวศิษย์รักหักเห

ประทานโดย : พระอนุเคราะห์ชาวโลก
ทำนองเพลง : ป่านฉะนี้ (วงเพื่อน)


ก่อนลาลับยังห่วงใยศิษย์หนา ศิษย์เดียงสานักหลักยืนยังสั่นคลอน เจอความทุกข์หรือเจอกรรมสนอง กลัวใจรับไม่ไหว

หวั่นใจนักกลัวศิษย์รักหักเห ถูกเกลียวคลื่นของทะเลวนสาดไกล เจ้าจงย้อนเห็นชีพเวียนเกิดตาย ตื่นกลับใจสูงส่ง

# อ่อนน้อมถ่อมตนเหมือน ดังหนึ่งมุกงามสูงคุณธรรม เหมือนคนน้อมหลอมชีวิตเพื่อนำ แสงธรรมฉายชนอุ่นไอ

* ก่อนลาลับจงผลักดันจิตสูง ใส่ใจรักสำนึกคุณสุดใจ ผู้หลับหลงเขายังรอผูกบุญ เจ้าคือเงาของธรรม

..Solo..

(ซ้ำ #, *)

หมายเหตุ
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 2 วัน ณ ไท่เสียนฝอเอวี้ยน จ.ชลบุรี
วันเสาร์ที่ 1 และวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2543

กลับหวนคืนมาตุภูมิ

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : รักเก่าที่บ้านเกิด

ศิษย์จากเบื้องบนกว่าหกหมื่นปี รอนแรมชีวีอยู่ดีกันหรือ แดนฟ้ามารดาอาลัยเหลือทน จนสายเนตรชลหลั่งทุกวันคืน โศกเศร้ากลํ้ากลืน ยืนรอลูกจะกลับมา

ก่อนเราจากกันที่ซัน ซัน พอ รอเจอกันทีอีกในยุคสาม พอถึงกาลมีสายทองชี้นำ จำให้ขึ้นใจส่งเรือมาตาม ท่านพรํ่าสั่งความ กลับหวนคืนมาตุภูมิ

โอ้บนโลกนี้ดั่งฉากมายา สูญเสียเวลาที่ต้องเพลินเล่น เรื่องจริงสำคัญให้เห็น ดั่งเช่นจิตญาณ ศิษย์จงเข้าศึกษา ดำเนินหนทางพ้นกลับเบื้องบน

โอ้บนโลกนี้ดั่งฉากมายา อาลัยวนเวียนไม่คืนกลับหวน วันนี้เจอธรรมชี้นำหวนคืน จงให้ฟูฟื้นหลักธรรมในตน ใจมั่นบำเพ็ญ หลุดพ้นในกาลทันที

ฝึกบำเพ็ญใสอย่ามัวลางเลือน เวลามาเตือนยํ่าเย็นสิ้นแล้ว พอแสงตะวันลับขอบฟ้าไป จะได้ชื่นชมหมู่ดาวพราวแพรว ใจมั่นไม่แปร แด่พระคุณ มุ่งบำเพ็ญ

กลับคืนฝั่งธรรม

ประทานโดย : พระโพธิสัตว์กวนอิม
ทำนองเพลง : แต่ปางก่อน

ดวงญาณมารดาประทานให้เรา หลงเมาสุราทิพย์ดื่มสำราญ พระองค์สุดจะกล่าวขาน เป็นสัญญาณส่งพุทธบุตรลงมา ดวงใจใช่อยากให้ลูกหวนมา โลกาทุกข์สุขนั้นเปลี่ยนแปรผัน เมตตาประทานธรรมพลัน เร่งวันเพื่อกลับคืนสู่นิพพาน

#ในใจระทมเหลือล้น ระคนน้ำตาน้ำเลือดปนกัน ลูกอยู่แห่งไหน ไม่คืนกลับไปแดน ในโลกทุกข์แสน เมื่อไรรู้แจ้งกลับคืน ลูกเอ๋ยจงรู้ประสงค์ของข้า นาวาใกล้เวลาออกจากฝั่ง รู้ตื่นแล้วพุทธสถิตยัง จงกลับคืนฝั่งธรรมที่อบอุ่นนะลูกเอ๋ย

(ซ้ำ #)

กระจ่างจิตญาณหลุดพ้น

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : เหนื่อยใจเหลือเกิน

ศิษย์เอยหลงทาง พร่ามัวเลือนลางเดินไป บ้างลืมบ้างเลือนไม่ใฝ่ ก้าวผิดยิ่งใจสับสน จุดกลางสำคัญเข้าใจเดินทันผจญ ช่วยคนหนึ่งทางแจ้งตน อดทนเพราะธรรมนำพา

ประตูนิพพาน แท้กลางนัยน์ตาอำพราง ขอใจมุ่งเพียรไม่ห่าง กระจ่างจิตญาณหลุดพ้น โปรดกาลยุคปลาย น้อมบำเพ็ญในครัวเรือน ศรีอาริย์โลกธรรมหมายเตือน ก้องกู่สะเทือนโลกา

* ช้าไปก้าวเดียว ชีวิตทุกข์วนเวียนต่อ หยุดบำเพ็ญท้อ ไม่เดินไม่ทันกลับฟ้า หนทางแห่งฟ้า ช่วยเวไนยหล้า โปรดธรรมนาวา หันมาเส้นทางบำเพ็ญ สู่กาลศรีอาริย์ พบพานผู้คนบำเพ็ญ ครอบครัวทั่วกันคล้ายเช่น เหมือนเปลี่ยนโลกเป็นสดใส เริ่มจากผู้คนขอจงบำเพ็ญจริงใจ ทุกทิศทั่วแดนวิไล กว้างไกลรู้ธรรมคุณ (ซ้ำ *)

กระจ่างธรรมกระจ่างใจ

ประทานโดย : จินถง
ทำนองเพลง : กนกลายโบตั๋น

แสงใจสว่าง คนมีจุดมุ่งหมาย หนทางมีง่าย มียากลวงให้หลง เมื่อทุกข์จงทน คนเหนือคนจักปลง กดใจให้ลง เพราะการทำใจ

แม้เรื่องจะยาก มากเกินกว่าใจรับ ความคิดดีดี มาดับความวุ่นวาย แก้ความเห็นผิด ความทุกข์พลอยสลาย กิเลสเรี่ยร่าย ใจรู้ตามทัน

# หลังกระจ่างธรรม ครุ่นคิดได้กระจ่างใจ จะเกิดแต่ในผู้เพียรขยัน ศึกษาจึงก้าวสู่ ก้าวสู่การปัน ไม่ยอมจะฝัน จึงสู่จะไกล

มอบชีวิตหนึ่ง บำเพ็ญหมดกังขา ว่ายทวนธาราเป็นมัจฉาเลิศลักษณ์ ถึงแม้เข้าใจ ไม่ท้อชีวิตหนัก มอบเมตตารัก โลกนี้ร่มเย็น

(ซ้ำ #)

หมายเหตุ
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม 3 วัน ณ พุทธสถานฉงเต๋อฝอเอวี้ยน อ.เมือง จ.นครปฐม
วันอาทิตย์ที่ 13 วันจันทร์ที่ 14 และวันอังคารที่ 15 เมษายน พุทธศักราช 2546

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กระจ่างต่างกับรักหลง

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง
ทำนองเพลง : ไม่เจียม

ยกเว้นไม่คิดจะกลับคืน จะหลับตื่นจะเร็วหรือจะช้า หนทางที่สุดตา หรือมีค่าอย่างไร จะสุขทุกข์เท่าไหน เหนื่อยเพียงไรมิหยุดหวัง เข็ดจำไม่คิดวาง แล้วว่ามันธรรมดา ผ่านสิ่งนี้ตรมใจ รวบสิ่งใหม่มาแทน ขาดเกินระหกระเหิน ก้มหน้าแล้วเดินเจ้าไม่เข้าใจ

# โปรดตระหนักและมองที่ใจเจ้าเอง เวลาเร็วไม่เกรง ก็เกรงแค่จิตหลง เบือนบิดทางสายตรง (ด้วยการล้มลงเพียงครั้งหนึ่ง)

กระจ่างต่างกับรักหลง จิตคงมั่นเกิดเพราะศรัทธา เห็นใครดีกว่า ชื่นชมมิเฝ้าขื่นใจ ศิษย์ก้าวขาตามฟ้ามีหรือจนใจ ฝนทั่งจิตไว้แม้ทำไม่ง่าย

(ซํ้า , #, # )

ศิษย์ไม่คิดจะก้าวต่อ